
ต้นกำเนิดเข็มทิศยุคแรก
นักประวัติศาสตร์เชื่อว่าชาวจีนโบราณเป็นผู้คิดค้นเข็มทิศแม่เหล็กขึ้นเมื่อ 2,000 ปีก่อนศริสตกาล โดยใช้เข็มเหล็กถูกับหินธรรมชาติที่มีแม่เหล็กเป็นส่วนประกอบ หรือที่เรียกว่า “Lodestone” จากนั้น เข็มเหล็กก็จะวางตัวขนานกับพื้นที่โลกโดยปลายเข็มทั้งสองชี้ไปที่ทิศเหนือและทิศใต้
ต่อมา 200 ปี ก่อนศริสตกาล ในราชวงศ์ฮั่น เข็มทิศชิ้นแรกของโลกได้ถูกประดิษฐ์ขึ้น โดยครั้งนี้ เป็นการใช้เข็มที่ทำจากแร่แมกนีไทต์ (Magnetite) ยึดติดบนวัสดุที่ลอยน้ำได้ ก่อนจะลอยมันลงในภาชนะบรรจุน้ำ เมื่อปล่อยให้ลอยตัวอย่างอิสระ ปลายเข็มแมกนีไทต์จะหันไปหาทิศเหนือและทิศใต้ ด้วยกฎแรงดึงดูดของแม่เหล็กนั่นเอง
ในศตวรรษที่ 12 เข็มทิศก็ถูกพัฒนามาเรื่อย ๆ จนกระทั่งกลายเป็นหนึ่งในอุปกรณ์สำคัญสำหรับการเดินทาง ที่ช่วยให้นักเดินทางสามารถเดินทางได้ทั้งกลางวันและกลางคืน และตลอดทั้งปี

บทบาทเข็มทิศในปัจจุบัน
แน่นอนว่ายุคสมัยและเทคโนโลยีทำให้เข็มทิศมีความแม่นยำในการบอกทิศทางมากขึ้น ปัจจุบันเข็มทิศถูกใช้ในการขี่จักรยาน ปีนเขา ทำแผนที่ และวิศวกรรมเพื่อบอกทิศทางที่ถูกต้อง[3]
นอกจากเข็มทิศทั่วไปที่เรารู้จักแล้ว ยังมีแอพพลิเคชั่นที่ใช้งานได้เหมือนเข็มทิศจริง ๆ ด้วย โดยเข็มทิศดิจิตัลมักใช้สำหรับงานง่าย ๆ หรืองานขนาดเล็ก เช่น การหาทิศทางสำหรับฮวงจุ้ยในบ้าน หรือการไหว้บูชาบรรพบุรุษสำหรับครอบครัวชาวไทยเชื้อสายจีน
กระนั้นเข็มทิศจริง ๆ ก็ยังได้รับความนิยมอยู่ เนื่องจากดีไซน์ที่สะดวกต่อการใช้งานและความแม่นยำที่มากขึ้น

แถมเรื่องความเข้าใจผิดเกี่ยวกับทิศเหนือ
แม้ว่าเข็มทิศจะชี้บอกทิศทางไปทางขั้วโลกเหนือของโลก แต่หลักการทำงานจริง ๆ ของเข็มทิศนั้น จะเป็นการบอกทิศทางตามทิศเหนือแม่เหล็ก (Magnetic North) ไม่ใช่ทิศเหนือจริง (True North) ตามภูมิประเทศของโลก
นอกจากนี้ยังมีทิศเหนือกริด (Grid North) อีกด้วย ซึ่งเป็นทิศเหนือที่ปรากฏในแผนที่โดยไม่พิจารณาความโค้งของพื้นโลก ดังสัญลักษณ์ที่มักจะพบบ่อย ๆ ในแผนที่กระดาษทุกชนิด

Summary
หากพูดถึงเข็มทิศแล้ว ผู้อ่านทุกท่านน่าจะนึกถึงทิศเหนือแน่นอน เพราะเป็นทิศที่เข็มทิศจะชี้ไปหาตามแรงดึงดูดของขั้วแม่เหล็กโลก ในนามของ CST เราภูมิใจนำเสนอ “เข็มทิศ” ให้แก่ทุกท่านที่กำลังหลงทางหรือกำลังมองหาทิศทางที่ถูกต้องทั้งในงานสำรวจและงานชนิดอื่น ๆ !